วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

[NC] Hello My Nanny PART : 9

[NC] Hello My Nanny PART : 9




“ฉันรักนาย” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่แผ่วเบา ผมรู้ตัวเองดีว่ากำลังพูดอะไรออกมา หัวใจของผมสั่งให้

พูดออกมาแบบนี้ ความรู้สึกที่ผมรู้สึกอยู่แบบนี้มาเนิ่นนาน ไม่สนว่ามันจะได้รับผลตอบรับกลับมาอย่างไรในตอนนี้

แต่ผมก็แอบหวังอยู่เล็กๆ ว่าสิ่งที่แจจุงทำดีกับผมเรื่อยมา นั้น ไม่ใช่แค่ทำตามหน้าที่ แต่ทำตามหัวใจ เหมือนอย่างผม

ยังไง ผมก็เป็นได้แค่เด็กคนนึงที่หวังจะได้อะไรทุกๆอย่างให้ได้ตามใจหวังอย่างเคย



แจจุงดูเหมือนจะอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อผมพูดออกไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง ทุกๆอย่างรอบตัวเราสอง
หยุดนิ่ง มีเพียงแต่ความรู้สึกของเราสองคนเท่านั้นที่ยังคงโลดแล่นอยู่


ผมมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของคนตรงหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง เพื่อที่อยากจะบอกให้คนคนนี้รู้เอาไว้ว่า ถึงผมจะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ และไม่ค่อยจะฟังใครสักเท่าไร แต่ผมก็จริงจังและซื่อสัตย์กับความรู้สึกนี้ของตัวเอง และผมก็จะยอม ยอมเค้าเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น



“ถึงแม้ว่านายจะยังไม่ลืมเค้า ฉันก็จะบอก ฉันไม่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้อีกแล้ว ”แจจุงไม่ได้พูดอะไร ยังคงปล่อยให้ผมพูดในสิ่งที่ผมอยากจะพูดออกมา ผมไม่รู้ว่าตอนนี้แจจุงจะคิดอะไรอยู่ แววตาของแจจุง ในตอนนี้ผมอ่านมันไม่ออกจริงๆ อ่านไม่ออกว่าตอนนี้แจจุงรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น ได้ยินอยู่ตรงหน้า



“ฉันจะทำให้นายลืมเค้าให้ได้ แจจุง อย่าเอาเรื่องที่นายมาหาฉันเพราะนายเพียงแค่จะเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง มาเป็นข้อจำกัดระหว่างเราสองคนเลยนะ.........ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น ไม่สนอีกแล้ว เพียงขอแค่ให้ได้อยู่กับนายก็พอ......แจจุง แค่นั้นก็พอ”

ผมพูดออกมาเสียงเบาลงในตอนท้ายของประโยค น้ำใสๆยังคงไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยของ

แจจุง ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้แจจุง และก้มลงจูบซับหยาดน้ำตาที่มันไหลรินออกมาจากดวงตาหวาน ก่อนจะค่อยๆ

เลื่อนลงมาจุมพิตลงที่ปากอิ่มของคนนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน และค่อยๆจะแปรเปลี่ยนไปเป็นรุนแรงมากยิ่งขึ้น

เรื่อยๆตามอารมณ์ของผม แจจุงไม่ได้ขัดขืนอะไรแต่อย่างใด นั่นก็ทำให้ผมยิ่งเอาแต่ใจได้ใจ เอาเปรียบแจจุงไปอย่าง

นี้ ผมรั้งแจจุงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของผมเป็นที่เรียบร้อย แจจุงตอบรับรสจูบของผม ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมแอบแปลกใจ

อยู่ไม่น้อย มือเรียวบางจับแขนของผมเอาไว้แน่น ราวกับว่ากำลังตื่นกลัวกับสิ่งที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้ ผมไม่รับรู้

อะไรภายนอกอีกแล้ว รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมกำลังเพลิดเพลินล่องลอยอยู่ในภวังค์ความหอมหวานที่ผมกำลังตักตวง

จากคนตรงหน้าอย่างเอาแต่ใจ และมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมกำลังคร่อมร่างบอบบางของคนอีกคนอยู่บนเตียงใหญ่ใน

ห้องนอน ผมละริมฝีปากของตัวเองออกจากเรียวปากหอมหวานของคนตรงหน้าอย่างเสียดาย เพราะว่าอากาศที่จะ

ให้คนตัวเล็กตรงหน้าผมได้หายใจเริ่มที่จะมีน้อยลง ดวงตาของเราสองคนสอดประสานกันอยู่เนิ่นนาน ผมยกมือขึ้น

มาและลูบไล้ใบหน้าเนียนละเอียดของคนตรงหน้าอย่างเบามือ และผมก็ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากอิ่ม


ของคนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ดูครั้งนี้จะร้อนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา เรียวลิ้นชื้นแฉะของเราทั้งสองคนเกี่ยวกระหวัดกัน

เล่นไปมากันอย่างเพลิดเพลิน เรียวแขนเล็กของร่างด้านใต้ผมยกขึ้นโอบรอบลำคอของผมเอาไว้แน่น ผมเลื่อนมือลง

ไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดของแจจุงให้ออกไปให้พ้นทาง ไม่นาน เสื้อเชิ้ตตัวนั้นก็ลงไปนอนแอ้งแม้งกับ

พื้นเย็นเฉียบอย่างไร้การสนใจจากเราทั้งสอง ผมละริมฝีปากออกมาจากเรียวปากสีสวย และเลื่อนใบหน้าลงมาซุก

ไซร้เข้ากับซอกคอขาว ที่มันช่างหอมหวานเสียเหลือเกินในเวลานี้ กลิ่นตัวของแจจุงเป็นอะไรที่ผมคุ้นเคย และไม่

อยากให้มันจางหายไปจากโสตประสาทการรับรู้ของผมอีกต่อไป เสียงหายใจหอบของร่างด้านใต้ผมดังลั่นห้อง

เงียบๆ ทันที แต่มือของผมก็ยังไม่หยุดที่จะทำตามใจของผม โดยการลูบไล้ไปมาทั่วผิวขาวเนียนละเอียดของคนตรง

หน้า ผิวแจจุงขาวและสวย ยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก ผมจูบหนักๆลงไปบนผิวขาวตรงหน้าผม จนเกิดเป็นรอยแดง

ไปทั่ว จนลามมาถึงช่วงอก และด้วยความเอาแต่ได้ของผมมันก็เลยทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหยุดแวะลิ้มลองเม็ดทับทิมสี

สวยที่ตั้งชูชันท้าทายผม และนั่นทำให้คนตรงหน้าผมถึงกับเผลอเปล่งเสียงร้องออกมาจนผมยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ


วินาทีนี้ ผมหยุดตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าลึกๆในใจของผมนั้น มันยังคงคิดว่าสิ่งที่ผมทำตอนนี้มันไม่สมควร มัน

อาจจะดูมากไปสำหรับแจจุง และผมอาจจะดูเอาแต่ใจ และเอาเปรียบแจจุงไปหน่อย แต่ตอนนี้ ผมตกอยู่ในห้วงแห่ง

ราคะเสียแล้ว และยากที่จะถอนตัวเมื่อได้สัมผัสเข้ากับร่างกายของคนตรงหน้า ถึงแม้ว่าผมจะเคยมีประสบการณ์ใน

เรื่องอย่างว่ามาบ้าง แต่ก็ไม่เคยที่จะหลงใหลไปกับร่างกายของใครได้เท่านี้มาก่อน และยิ่งไปกว่านั้น ไม่เคยที่ผมจะ

ได้หลงไหลไปกับร่างกายของผู้ชาย ซึ่งแจจุงเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น และมันก็ทำให้ผมหลงจนควบคุม

ตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ เหมือนตอนนี้




ผมเลื่อนมือลงมาปลดกางเกงอยู่บ้านสบายๆของแจจุงออกอย่างง่ายดายจนเหลือแต่ชั้นในตัวจิ๋ว ยิ่งสำรวจดูทุกส่วน

ของแจจุงแล้ว แจจุงสวยจริงๆ ผมโอบกอดร่างบอบบางที่หายใจหอบสะท้านอยู่ข้างใต้ผมให้เข้ามาในอ้อมอกของตัว

เองแน่นขึ้น ด้วยความรู้สึกที่มันเอ่อล้นในหัวใจของผม ผมอยากจะกอดแจจุงเอาไว้อย่างนี้ อยากจะเก็บคนคนนี้ไว้ให้

อยู่กับตัวเองตลอดไป ผมเลื่อนตัวเองขึ้นไปตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากสวยของคนตรงหน้าอีกครั้ง

ซึ่งแจจุงเองก็ตอบรับผมเช่นกัน ผมค่อยๆเลื่อนมือลงมาและปลดชั้นในตัวจิ๋วของร่างด้านใต้ของผมจนมันหลุดลอย

ตามเสื้อผ้าส่วนอื่นๆที่ผมปลดลงไปเองกับมือ และแล้วแจจุงก็สะดุ้งเฮือกเมื่อความเย็นจากฝ่ามือของผมสัมผัสเข้ากับ

แกนกลางที่กำลังสั่นระริกอยู่ในมือของผม ผมเค้นคลึงมันเพื่อเรียกอารมณ์จากคนตรงหน้าผม แจจุงเบือนหน้าหนีรส

จูบของผม เพื่อจะได้ปล่อยเสียงครางออกมาระบายอารมณ์



“อื้ม อึก ” แจจุงหายใจหอบถี่ด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ผมซุกไซร้ซอกคอขาวเพื่อสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบอบบางนี้อีกครั้ง ผมใช้มือสร้างความสุขให้กับแจจุงด้วยความเร็ว จนแจจุงดิ้นไปมาเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ผมสร้างให้



“อ๊า ยุน....โฮ ไม่ ฮึก ” แจจุงกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ เพื่อกลั้นเสียงร้องที่แจจุงอาจจะคิดว่ามันน่าอาย แต่สำหรับผมแล้ว มันยิ่งทำให้ผมอยากจะลิ้มลองความหอมหวานจากร่างกายคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น เมื่อแจจุงเรียกชื่อผมออกมา



“ไม่....ไม่ไหวแล้ว ยุนโฮ ” แจจุงเงยหน้าขึ้นมา และมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน แต่มันช่างเร้าอารมณ์กับผมซะจริงๆ

ไม่นาน แจจุงกระตุกตัวอย่างแรง และปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเต็มมือผม แจจุงนอนหายใจหอบอย่าง

แรง หน้าอกบางกระเพื่อมขึ้นลง เนื่องจากเจ้าของพยายามจะสูดอากาศเข้าให้เต็มปอดมากที่สุด

ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ ก่อนจะกดจูบลงไปเบาๆบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อ



“เหนื่อยแล้วเหรอ ”แจจุงลืมตาขึ้นมองดูผมซึ่งอยู่ในระยะประชิด


ผมไม่รอให้แจจุงตอบอะไร และประทับริมฝีปากลงไปบนเรียวปากอิ่มที่กำลังเผยออกเพื่อที่จะสูดอากาศเข้าปอด


แจจุงยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอผมแน่น ผมรีบอาศัยจังหวะนั้นจัดการกับกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็ว และจ่อเจ้าลูก

ชายตัวน้อยที่ไม่น้อยที่มันกำลังแข็งขืนตามแรงอารมณ์ของผมเข้ากับช่องทางรักสีหวานของคนตรงหน้าผม และสอด

ใส่เข้าไปคราเดียวจนแจจุงสะดุ้งตัวอย่างแรงและพยายามจะเบือนหน้าหนีออกจากสัมผัสของผม แต่ผมจับใบหน้า

หวานเอาไว้อย่างเดิม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้แจจุงรู้สึกเจ็บมากนัก




ผมไม่รู้หรอกว่า ที่แจจุงยอมให้ผมทำแบบนี้จะเป็นเพราะเหตุผลอะไร อาจจะเป็นเพราะความเหงา หรือความอดอยาก? หรือเพราะอะไรก็ตามแต่ แต่เพียงขอแค่ให้ผมได้อยู่อย่างนี้ ได้สัมผัสและลุ่มหลงอยู่กับร่างกายอันแสนวิเศษของคนตรงหน้าแบบนี้ ผมยอม และผมก็จะเอาชนะใจของคนตรงหน้า ให้ลืมไอสารเลวยูชอนให้ออกไปจากใจให้ได้



ผมค่อยๆเคลื่อนไหวร่างกายตัวเองให้เข้ากับร่างกายของแจจุงช้าๆ



“อ๊ะ อื้ม ” มือเรียวจับแขนของผมเอาไว้แน่น จนเล็บเผลอจิกลงบนเนื้อของผมอย่างแรง ผมประคองกอดร่างบอบบางของร่างด้านใต้เอาไว้อย่างถะนุถนอม พร้อมๆกับเคลื่อนไหวร่างกายตัวเองไปมาอย่างเนิบๆ และเริ่มจะร้อนแรงยิ่งขึ้นเมื่ออารมณ์ของผมเริ่มจะประทุถึงขีดสุด



“อ๊า ยุนโฮ ยุนโฮ ” ในยามที่เสียงครางหวานหูของแจจุงเอ่ยเรียกชื่อผม นั่นก็ทำให้ผมบรรเลงบทเพลงรักที่ผมเป็นคนเริ่มต้นขึ้น ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น



แจจุงรั้งตัวผมให้ก้มลงมาอยู่ในอ้อมแขนบางของตัวเอง และเปล่งเสียงครางแห่งความเสียวซ่านอยู่ตรงข้างๆหูของผม และมันก็ยิ่งทำให้จังหวะรักที่ผมกำลังบรรเลงอยู่นั้น แรงและเร็วมากยิ่งขึ้น



“อื้ม ยุน...โฮ อ๊ะ ” ผมก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอีกครั้ง และเลื่อนลงมาลิ้มรสสัมผัสของผิวขาวๆตรงหน้า

นี่อาจจะเป็นด้านมืดของผมที่ผมเองก็ยังไม่เคยได้ค้นพบถึงมัน ครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับผู้ชาย และร่างกายของคนในอ้อมกอดของผมตอนนี้ก็ช่างเป็นสิ่งที่วิเศษ ที่ทำให้ผมหลงใหล และยากที่จะลืมเลือนมันได้ ผมแน่ใจอย่างนั้น

ผมหลุดครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว กับความรู้สึกมีความสุข และหื่นกระหายของตัวเองในตอนนี้ ตอนนี้ผมมีความสุขเสียจริงๆ



ภาพตรงหน้าที่แจจุงกำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาฉ่ำปรือ ริมฝีปากอิ่มเผลอออกเพื่อครางเสียงแห่งความเสียวซ่านออกมา นั่นทำให้ผมยิ่งอยากจะครอบครองร่างกายอันน่าหลงใหลของคนตรงหน้าเอาไว้ ให้เนิ่นนาน

ผมออกแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะได้ปีนป่ายเข้าไปภายในตัวแจจุงได้ลึกยิ่งขึ้นมากกว่านี้ และเมื่อผมเคลื่อนตัวเข้าไปถูกจุดที่แจจุงพอใจ แจจุงก็จะหยัดตัวขึ้นจากที่นอนทุกครั้งไป



ผมรั้งให้ร่างบางที่นอนราบอยู่กับพื้นเตียงให้ขึ้นมานั่งคร่อมผมเอาไว้ และจับสะโพกมันกลมกลึงนั่นขึ้นลงเร่งจังหวะรักที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย



“แฮ่กๆ ยุนโฮ อื้ม ”เราสองคนมองหน้ากันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาแห่งไฟราคะที่กำลังลุกโชนอย่าง
โหมกระหน่ำในร่างกายของเราทั้งสอง ผมเริ่มจะตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มตรงหน้าอีกครั้ง โดยที่ร่างกายของเราก็ยังเคลื่อนไหวปรนเปรอความสุขให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่หยุดหย่อย

เรียวลิ้นชื้นของเราสองหยอกล้อเล่นกันไปมาเพลิดเพลินอย่างสนุกสนาน จนน้ำหวานไหลรินลงมาเปื้อนลำคอระหงของคนตรงหน้าผม ผมเลื่อนใบหน้าลงมา และไล่เลียเก็บน้ำหวานนั้นอย่างหื่นกระหาย แจจุงเริ่ดหน้าขึ้นพร้อมหลับตาพริ้ม และยังคงเปล่งเสียงแห่งความสุขสมออกมา อย่างไม่ขาดสาย ช่องทางรักของแจจุงมันตอดรัดเจ้าลูกชายตัวไม่น้อยของผมจนทำให้ผมแทบจะสำลักความสุขสมตายเสียตรงนี้ จนต้องปลดปล่อยความสุขออกมาด้วยเสียงครางแห่งความพอใจ



ลำคอขาวที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าผมมันช่างเชื้อเชิญให้ผมรุกล้ำเข้าไปลิ้มลองความหอมหวานเสียจริงๆ และผมก็ทำตามที่มันเชื้อเชิญ ไล่เลียความหอมหวานด้วยเรียวลิ้นร้อนชื้นของตัวเองจนแจจุงถึงกับครางออกมาเสียงหลง



“อ๋า ยุน....อึก ยุนโฮ อ๊า ”แจจุงส่ายร่อนสะโพกไปมา ตามจังหวะที่ผมเป็นคนควบคุม ยิ่งทำให้เจ้าลูกชายของผมปีนป่ายเข้าไปลึกยิ่งขึ้นภายในร่างกายแจจุง







เวลายังคงดำเนินไปอย่างนั้นเรื่อยๆ ตามบทเพลงรักที่เราสองคนกำลังร่วมกันบรรเลงอย่างเร่าร้อน และแล้วดูเหมือนว่า แจจุงกำลังจะถึงฝั่งฝันที่ตัวเองวาดหวังเอาไว้แล้ว



ผมผลักแจจุงลงไปนอนลงกับเตียงอย่างเดิม และเร่งจังหวะรักของเราสองคนให้เร็วและแรงยิ่งขึ้นเพื่อที่จะได้ถึงฝั่งฝันตามที่ใจสองมั่นหมายเอาไว้



“ยุนโฮ ยุนโฮ ไม่ ไม่ไหว” และเสียงครางสุดท้ายก็ดังขึ้น และร่างบางที่กระตุกอย่างแรงพร้อมๆกับการปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ผมเร่งกระทั้นตัวเองเข้าไปให้ลึกขึ้นในร่างกายแจจุง



“อา แจจุง อึก ” ไม่นาน ผมเองก็ปลดปล่อยออกมาตามที่ใจหวังเช่นกัน ผมทรุดตัวลงนอนทับลงบนร่างบางของคนตรงหน้าอย่างอ่อนแรง เสียงหอบหายใจของเราทั้งสองดังแข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อ
ไป



ผมเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอขาวที่ผมกำลังสูดดมกลิ่มหอมอยู่ และมองหน้าแจจุงด้วยแววตาที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร แต่ที่แน่ๆ มันอยากจะบอกอะไรๆในใจผมให้แจจุงได้รู้


ผมยกมือขึ้นปาดหยาดเหงื่อที่เกาะพรายอยู่ตามใบหน้าของแจจุงให้ออกไปอย่างแผ่วเบา



“นายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น นับแต่วันนี้ไป เข้าใจนะ ”แจจุงไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ส่งยิ้มให้ผมบางๆ และผมก็ทิ้ง
ตัวลงนอนลงข้างๆแจจุง และรั้งคนตรงหน้าให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด และอยู่อย่างนั้นทั้งคืน จนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน




และแล้วสิ่งที่ผมได้สัมผัสและมันก็ผ่านพ้นไปแล้ว มันช่างเหมือนกับความฝันที่หอมหวาน ซึ่งผมไม่อยากจะตื่นขึ้น

มาอีกเลยถ้าได้ฝันอยู่เช่นนั้น ผมรู้สึกตัวในเช้าที่อากาศไม่ค่อยจะหนาวเท่าไร และแน่นอน ผมก็ยังรู้สึกได้ว่า ยังมีร่าง

ของใครบางคนยังคงนอนแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดของผม แต่เมื่อผมลืมตาขึ้น ร่างในอ้อมกอดของผมกลับตื่นอยู่ก่อน

แล้ว นัยน์ตาหวานเหม่อมองเพดานห้องด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ผมเห็นแบบนี้ มันทำให้ผมคล้ายๆจะเหนื่อยใจ เหมือน

กับว่า ผมทำสิ่งที่ร้ายแรงมากกับคนที่นอนอยู่ตรงนี้ เหมือนกับไม่มีความเต็มใจเลยจากคนคนนี้เมื่อคืน เหมือนกับว่า

ผมมีความสุขและร่ำร้องไปเองคนเดียว



ผมรั้งคนตรงหน้าให้เข้ามาในอ้อมกอดมากยิ่งขึ้น และสูดดมความหอมหวานจากซอกคอขาวอีกเช่นเคย


“ตื่นนานแล้วเหรอ ”


“อื้ม”



แจจุงตอบออกมาสั้นๆ และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ผมค่อยๆ โง้ตัวขึ้นมา และนอนท้าวคางมองใบหน้าหวานที่อยู่ตรงหน้าผม



แจจุงหันมามองผมกลับ หลังจากที่ปล่อยให้ผมมองหน้าอยู่นาน


“ว่าไง”


“นายกำลังคิดอะไรอยู่”แจจุงนิ่งเงียบไปสักพัก และมองตาผมด้วยสายตาที่ผมเองก็ยากที่จะเข้าใจ


“นายกำลังกลัวอยู่ใช่รึเปล่า”


แจจุงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเบนสายตาหันมองไปทางอื่น


“มันเหมือนฉันทำผิด มันไม่สมควร”ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เช่นกัน



“ผิดยังไง ผิดที่ฉันเป็นลูกของเพื่อนแม่นาย ที่เค้าส่งมาให้เป็นพี่เลี้ยง แต่นายกลับทำแบบนี้ หรือว่า ผิดที่ นายยังไม่
ลืมไอนั่น แต่ดันมายอมฉันอย่างนี้ น่ะเหรอ อย่างไหนกัน ”ผมแอบใส่อารมณ์เล็กน้อยตอนที่พูดออกมา นั่นทำให้แจ
จุงหันมามองผม



“ยุนโฮ”และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง


“ฉันหวังว่าให้มันเป็นอย่างแรกนะ แจจุง ”ผมพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ ที่เริ่มจะแปรเปลี่ยนไปเป็นความกดดัน ที
ละน้อยๆ


“ใช่ ฉันรู้สึกอย่างแรก”


“แต่ถึงแม้จะมีเหตุผลข้อที่สองมาเกี่ยวข้อง ฉันก็ไม่อยากจะรับรู้หรอกนะ ”


และแจจุงก็ยังคงเงียบ ไม่ตอบอะไรผมอีกเช่นเคย



“ฉันต่างหากที่รู้สึกผิด....ก็ดูนายตอนนี้สิ มันทำให้ฉันเหมือนฆาตกรที่กำลังเพิ่งจะฆ่าคนเสร็จยังไงหยั่งงั้น ” ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆแจจุง แจจุงหันมามองผม


“ขอโทษนะ ” ผมหันไปมองหน้าแจจุงเช่นกัน และหยัดตัวขึ้นมาจากที่นอนในท่านอนคว่ำ


“ฉันบอกแล้วไง นายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น .......ฉันรู้สึกยังไง ฉันก็ทำอย่างนั้น.....ถึงแม้ว่า นายจะยังไม่เต็มใจก็ตาม
เถอะ ”แจจุงมองหน้าผมด้วยแววตาที่แฝงด้วยความเศร้า หลังจากที่ฟังตอนท้ายของประโยค



“อย่าพูดอย่างนั้นสิ”


“แต่ก็นะ ฉันบอกแล้วไง ว่ายังไง ฉันก็ชนะใจนายให้ได้ คอยดูละกันนะ แจจุง ” ผมส่งยิ้มให้คนตรงหน้าบางๆ เพื่อ
บอกว่า ผมจะทำให้ได้อย่างที่พูด



แจจุงไม่ได้พูดอะไร เพียงส่งยิ้มให้ผมบางๆเท่านั้น



รอยยิ้มของเราทั้งสองคนที่ส่งให้กันในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาจากใจกันจริงๆ ผมไม่รู้ว่ารอยยิ้มของแจจุงมันจะแฝงไปด้วยความทุกข์เรื่องอะไร แต่สำหรับผมแล้ว ผมรู้สึกเหนื่อยใจ เหนื่อยใจที่เห็นแจจุงเป็นอย่างนี้ เหมือนกับว่า แจจุงรู้สึกว่า ผมคือความผิดพลาด ที่เข้ามาในชีวิตแจจุง


ผมลุกขึ้นนั่งบนที่นอน และดึงมือเรียวของคนข้างกายให้ลุกขึ้นนั่งตามด้วย



ผมมองหน้าแจจุงที่อยู่ในระยะประชิด และแน่นอนว่าแจจุงก็ต้องมองหน้าผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย



“ไปกินข้าวกันเถอะ .......ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ คุณพี่เลี้ยง ” ผมโน้มตัวเข้าไปจุ๊บปากแจจุงเบาๆและผละออกอย่างเร็ว


แจจุงดูท่าจะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมาบางๆให้ผม รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอีกหน่อย แต่ผมก็แอบอยากจะบอกแจจุงเอาไว้ซะตรงนี้ ว่าถ้าฝืนใจนัก ก็อย่าทำมันเลยนะ มันจะทำให้ผมเสียใจในภายหลัง แต่ตอนนี้ ผมไม่อยากที่จะพูดออกไปอย่างนั้น เพราะไม่ว่าแจจุงจะเป็นยังไงในตอนนี้ แต่เพียงแค่ตอนนี้ผมรักแจจุง และผมจะเอาชนะใจแจจุงให้ได้ ในอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะสนกัน

[NC] My Boyfriend PART : 32

[NC] My Boyfriend PART : 32


“ในเมื่อนายไม่สนใจฉ้าน นายไม่รักฉันแร้วใช่มั้ยแจจุง ฮือๆ ฉันไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว แจจุง ฮือๆ ” ขาเรียวยาวก้าวออกไปนอกหน้าต่าง หวังจะปลิดชีพตัวเอง ด้วยความไม่สติ


แต่ขาเรียวยาวก็ต้องกลับเข้ามาอีกครั้ง เมื่อมีแรงจากใครบางคนที่ดึงให้เค้าเข้ามาที่เดิม


แขนเรียวบางโอบรอบเอวหนาของคนที่กำลังจะคิดสั้น ทำอะไรบ้าๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้อีกคนกลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย


“ไม่นะ ยุนโฮ นายทำบ้าอะไรเนี่ย ” นัยน์ตาคมเบิกกว้างทันที เมื่อรับรู้ถึงการโอบกอดจากคนด้านหลัง สัมผัสที่ตัวเองจำได้เป็นอย่างดี ร่างสูงค่อยๆหันมาตามเสียงของคนที่อยู่ด้านหลังตัวเอง ก็พบเข้ากับคนที่ทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ กำลังยืนร้องไห้อยู่ด้านหลังของตัวเอง


“ฮึก นายทำบ้าอะไร ทำบ้าอะไร !!! ” เสียงหวานสั่นเครือตวาดเค้าเต็มแรง พร้อมๆกับตบตีลงมาบนอกแกร่งหลายที


“นายทำอะไร ทำไม คิดอะไรบ้าๆ แบบนี้ ฮือๆ ” มือเรียวบางยังคงตบลงไปบนเนินอกแกร่งของคนตรงหน้าอย่างต่อเนือง และยังคงปล่อยให้หยาดน้ำไหลรินลงมาเปื้อนแก้มขาวของตัวเองอยู่เรื่อยๆเช่นกัน


ยุนโฮที่ดูเหมือนจะอึ้งๆไปอยู่นาน ก่อนจะได้สติเพราะเริ่มที่จะเจ็บที่อกตัวเอง จากการทุบตีของคนตรงหน้า มือหนาจับมือเรียวของคนตรงหน้าเอาไว้ เพื่อให้หยุดการกระทำเหล่านั้น

“แจจุง แจจุง แจจุง จริงๆ ใช่มั้ย ” มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าหวานของคนตรงหน้า เพื่อพิสูจน์ว่า คนตรงหน้าคือแจจุงของเค้าจริงๆ

“ก็จริงน่ะสิ ไอบ้า ฮือๆ ” มือหนาคว้าคนตรงหน้าที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาสู่อ้อมอกของตัวเองอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวคนตรงหน้าจะเป็นแค่ภาพที่เค้าจินตนาการขึ้นมาเอง และมลายหายไปถ้าเค้าปล่อยไป

“แจจุง แจจุง จริงๆ ด้วย กลับมาหาฉันแล้วใช่มั้ย ”


“อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นอีกนะ ฉันขอร้อง ฮือๆ อย่าทำอีกนะ ยุนโฮ ”


“ครับ ยุนโฮจะไม่ทำอีกแล้วนะ แจจุง ฮึก ไม่ทำอีกแล้ว ” น้ำใสๆไหลลงมาเปื้อมแก้มกร้านมากขึ้น เพราะความดีใจ ที่คนอีกคนยอมกลับมาเค้าแล้ว

มือหนาดันให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดออกมาประจันหน้ากับตัวเอง ก่อนจะโอบอุ้มใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาขึ้นมา นิ้วเรียวยาวบรรจงเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาเปื้อนแก้มขาวเนียน


“ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้องแล้ว ”

“ฮึก คนบ้า ไอคนเสียสติ ” ใบหน้าคมโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของคนตรงหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ จูบที่อ่อนโยนและคลุกเคล้าไปด้วยกลิ่นน้ำตา ก่อนจะแปรผันไปเป็นจูบที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นร้อนของทั้งสองคนขับเคลื่อนออกมาและตวัดไปมาหยอกล้อกันไปมา แขนบางยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งของคนตรงหน้าอย่างลืมตัวเพราะกำลังล่องลอยไปตามอารมณ์ของตัวเอง


ใบหน้าดูดีของคนสองคนสลับมุมไปมาเพื่อให้รับรสจูบที่แสนจะร้อนแรงได้ถนัดมากยิ่งขึ้น มือหนาจัดการโอบอุ้มขาเรียวกลมกลึงของ

คนตรงหน้าให้ขึ้นมาเกี่ยวเอวหนาของตัวเองเอาไว้ ขาเรียวยาวพาร่างของทั้งสองคนไปยังเตียงนุ่มที่อยู่ภายในห้องนอน จูบที่เนิ่นนาน

และเริ่มจะร้อนแรงขึ้นทุกทียังคงดำเนินต่อไป แผ่นหลังบางราบลงกับพื้นเตียงนุ่มในที่สุด ริมฝีปากของทั้งคู่ยอมผละออกจากกันอย่าง

เสียดาย เพราะคนที่อยู่ข้างล่างเริ่มส่งสัญญาณเตือน ว่าตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ดวงตาของทั้งคู่ผลัดกันสื่อความรู้สึกต่อกันให้

กันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ใบหน้าคมจะเคลื่อนตัวเข้าหาใบหน้าหวานของร่างที่อยู่ด้านใต้ ริมฝีปากหนาประทับลงไปบนแก้มขาวเนียนอย่าง

อ่อนโยน มือหนายกขึ้นลูบไล้แก้มเนียนไปมา เหมือนกับว่าจะพิสูจน์ให้แน่ใจ ว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่เค้าคอยเฝ้าฝันถึงอยู่จริงๆ ไม่ใช่

เป็นแค่ภาพลวงตาที่เค้าสร้างขึ้นมาเอง


“ฉันคิดถึงนาย ” นัยน์ตาคมที่ฉายแววจริงจัง นั้น ทำเอาคนที่อยู่ข้างใต้ที่ได้มอง ใจสั่นเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

“ฉันก็คิดถึงนาย” พูดจบแขนเรียวบางก็โน้มใบหน้าของคนข้างบนให้ลงมารับจูบรสหวานของตัวเองอีกครา เพื่อให้หายความคิดถึงจาก
การที่จากกันไปนาน


มือหนาค่อยๆแทรกเข้าไปภายใต้สาบเสื้อเนื้อดีก่อนจะลูบไล้ผิวเนียนละเอียดอย่างสนุกมือ จนเรียกเสียงครางอื้ออึงภายในลำคอของคนอีกคนได้เป็นอย่างดี


เวลาผ่านไปไม่นาน กางเกงผ้าเนื้อดีถูกสลัดลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นห้องอย่างไม่ได้รับการเหลียวแล การจุมพิตที่ร้อนแรงยังคง

ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง มือหนาเย็นเฉียบค่อยล้วงเข้าไปภายใต้ชั้นในตัวจิ๋วที่ยังคงเป็นอาภรณ์เพียงชิ้นเดียวที่ยังปกปิดส่วนล่างของ

ร่างบาง การกระทำที่ทำให้คนถูกกระทำถึงกับสะดุ้งอย่างแรง เพราะความเย็นจากมือที่แล่นผ่านมาจนถึงเจ้าตัวน้อยที่เริ่มจะมีอารมณ์ขึ้น

มาน้อยๆ มือหยาบค่อยๆเค้นคลึงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในมือของตัวเองเพื่อเป็นการปลุกปั่นอารมณ์ให้คนอีกคน จนเสียงครางอื้ออึงในลำคอ

เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าตัวทนไม่ไหว เบือนหน้าหนีสัมผัสจุมพิตที่ร้อนแรงเพื่อจะได้ปลดปล่อยเสียงครางหวานเป็นการระบายอารมณ์ที่

กำลังจะปะทุของตัวเอง


“อ๊ะ ยุนโฮ ไม่ ” มือหนายังคงเค้นคลึงปรนเปรอความสุขให้กับน้องชายของคนด้านใต้ พร้อมๆกับจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรง

อารมณ์ของคนตรงหน้า อกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง เพราะหายใจถี่มากยิ่งขึ้น นัยนต์หวานฉ่ำปรือจ้องมองใบหน้าของคนตรง

หน้า เหมือนกับจะเป็นการเรียกกอารมณ์ให้อีกคนเช่นกัน ไม่นาน ชั้นในตัวจิ๋วที่ยังติดอยู่ส่วนล่างก็ถูกสลัดออกไปนอนแอ้งแม้งตาม

กางเกงเนื้อดีลงไปติดๆ มือหนาผละออกจากเจ้าลูกชายตัวน้อยที่ตอนนี้เริ่มจะแดงบวมรอการปลดปล่อย ใบหน้าคมเคลื่อนลงไปส่วน

ล่างของคนอีกคน มือหนาค่อยๆประคองเจ้าตัวน้อยที่บวมเป่งขึ้นมาในมือ ก่อนจะค่อยส่งมันเข้าโพรงปากร้อนของตัวเอง การกระทำที่

ส่งผลให้คนที่ถูกกลั่นแกล้ง สะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัว



“อ๊า ยุนโฮ ” มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ จนเกิดรอยยับ


ร่างสูงยังคงปรนเปรออีกคนเป็นอย่างดี ริมฝีปากร้อนยังคงทำหน้าที่มอบความสุขให้คนตรงหน้าเป็นอย่างดี เรียวลิ้นร้อนไล่เลียไปตาม

ความยาวของคนตรงหน้าจนสุดความยาว ร่างบางดิ้นเร่าไปมาด้วยแรงอารมณ์ที่สับสนปนเปของตัวเอง


“อึก อ๊า ยุนโฮ อึก ” มือบางแทรกเข้าไปภายใต้กลุ่มผมนุ่มของคนอีกคน ก่อนจะออกแรงกดให้คนตรงหน้ามอบความสุขให้กับตัวเอง
มากยิ่งขึ้น


“ยุนโฮ ยุนโฮ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว อ๊า ” แผ่นหลังบางกระตุกขึ้นจากที่นอนอย่างแรง ก่อนจะปล่อยน้ำนมสีขาวนวลเข้าโพรงปากของอีกคนอย่างลืมตัว แต่ร่างสูงก็เต็มใจรับมันเข้าไปลิ้มรส
รสชาติอย่างไม่รังเกียจ



แผ่นอกบางของร่างด้านใต้กระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงจากการหายใจที่เริ่มจะแรงขึ้นทุกที


“เหนื่อยแล้วเหรอครับ ที่รัก ” ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นไปดูอาการของคนตรงหน้า ที่ดูเหมือนจะเหนื่อยเสียแล้ว


“ทรมาน มากกว่า แฮ่กๆ ” ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าไปซุกไซร้ซอกคอขาวหอมกรุ่น พร้อมๆกับการจัดการปลดเปลื้องกางเกงของตัว
เองออกไปให้พ้นทาง


ริมฝีปากหนากดจูบลงไปหนักๆบนผิวขาวเนียนละเอียด จนเกิดรอยแดงขึ้นทั่วลำคอ รอยที่เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ เรียวลิ้นร้อน

ไล่เลียไปตามผิวเนียนเอียดทั่วลำคอขาว มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด จนเสื้อผ้าเนื้อดีหลุดลอยไปไร้ทิศทาง


ลิ้นร้อนไล่เลียลงมาจนถึงเม็ดทับทิมสีสดที่กำลังแข็งเป็นไตอยู่ ราวกับมันเป็นของหวานที่ราคาแพงหายาก การกระทำที่ส่งผลให้แผ่น


หลังบางของอีกคนหยัดขึ้นมาจากเตียงนุ่มเพื่อรับสัมผัสของอีกคนให้มากขึ้น


“อื้ม แฮ่ก อ๊ะ ย...ยุน ” มือหนาลูบไล้ไปมาบนผิวเนียนละเอียดอย่างสนุกมือ เป็นการปลุกอารมณ์ให้อีกคนได้เป็นอย่างดี

มือเรียวเอื้อมไปโอบอุ้มใบหน้าของคนอีกคนให้ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับตัวเองก่อนจะประทับริมฝีปากลงไป เรียวลิ้นเล็กร้อนชื้นค่อยๆ

รุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของอีกคน ก่อนจะตวัดเรียวลิ้น


หยอกล้อกันไปมา จนเกิดเสียงดังลั่นห้อง ในจังหวะที่ร่างข้างใต้กำลังสนใจกับรสจูบที่แสนจะเพลิดเพลินอยู่นั้น ร่างสูงก็จัดการแทรกเจ้าตัวน้อยที่กำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่เข้าไปในช่องทางรักร้อนด้านหลังจนสุดความยาว
ร่างบางกระตุกอย่างแรงด้วยความตกใจ และความเจ็บปวด


เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นทันทีในลำคอ เพราะคนอีกคนยังไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระเสียที
ร่างสูงยังคงไม่ยอมขยับเขยื้อน แต่ยังคงแลกน้ำรสหวานอยู่กับร่างข้างใต้อย่างตั้งใจ จนคนอีกคน

ทนไม่ไหวกับความทรมานที่เริ่มจะก่อตัวมากขึ้นเพราะคนอีกคนไม่ยอมขยับเสียที ใบหน้าหวานเบือนหน้าหนีสัมผัสจากร่างด้านบน

“ยุนโฮ ขยับซะที ทรมานจะตายแล้วนะ ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาทันที

“ต้องการฉันขนาดนั้นเลยเหรอครับ ที่รัก ” มือหนายกขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดพรายเต็มหน้าผากของร่างด้านใต้

“ฮึก นาย ”

“บอกสิครับ ว่าต้องการ ” ใจจริงเค้าก็อยากจะขยับกายรับรู้ความรู้สึกเสียววาบซะเต็มที่ แต่ก็อยากจะกลั่นแกล้งคนอีกคน ให้ร่ำร้องเรียก
หาตัวเองดูบ้าง

“ต้องการ ฉันต้องการนาย ยุนโฮ ” แขนเรียวยาวโอบรอบต้นคอของอีกคนราวกับลูกนกที่กำลังจะตกจากที่สูง
ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะขยับสะโพกของตัวเองเข้าออกช่องทางรักเนิบๆ


“อ๊า อึก ยุนโฮ ” ทุกทีที่เจ้าลูกชายตัวไม่น้อยของร่างสูงดันเข้ามาถูกจุด แผ่นหลังบางกระตุกขึ้นจากที่นอนเป็นอัติโนมัติทันที
จังหวะรักดำเนินไปอย่างช้าๆ เนิบๆ เพราะร่างสูงจงใจที่จะกลั่นแกล้งให้คนอีกคนร่ำร้องหาตนมากยิ่งขึ้นไปอีก


“ฮ๊า ยุนโฮ อึก เร็วๆ เร็วๆ เข้ามาอีก เข้ามา ” เสียงครางหวานหูที่เร่งบอกให้เค้าเร่งจังหวะให้ ช่างดูร้อนแรงกว่าทุกๆครั้ง ที่พวกเราวกกันมาเข้าเรื่องอย่างว่า


“ฮึก ฮ๊า ยุนโฮ แรงๆ ”

ร่างสูงสนองความต้องการของร่างข้างใต้ให้ทันที โดยการเร่งจังหวะรักให้เร็วและร้อนแรงมากยิ่งขึ้น จนเตียงคิงไซต์เริ่มจะส่งเสียงเตือน
ดังลั่นห้อง


“อ๊า ยุนโฮ ยุนโฮ ” แขนเรียวบางยังคงโอบรอบลำคอของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น เสียงครางร้อนแรงที่ดังอยู่ข้างใบหูของร่างสูงยิ่งส่งผลให้จังหวะรักรุนแรงและร้อนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะอารมณ์ที่เริ่มจะทวีความรุนแรงของร่างสูง
ริมฝีปากอิ่มประทับจูบลงไปหนักๆบนต้นคอของร่างสูง เพื่อแสดงรอยแห่งความเป็นเจ้าของ เรียวลิ้นเล็กไล่เลียไปตามใบหูของคนอีกคน ส่งผลให้ร่างสูงหลุดครางออกมาทันที


“ฮึก แจจุง อา ”


แต่แล้วบทเพลงรักที่กำลังร้อนแรงอยู่ก็หยุดลงซะดื้อๆ ร่างสูงจัดการให้อีกคน อยู่ในท่านั่งหันหลังให้กับตัวเอง ร่างบางค่อยๆ หย่อนตัวเองลงให้ช่องทางรักด้านหลังครอบครองเจ้าลูกชายของคนด้านหลังที่กำลังชูชันรออยู่ จนมันเข้าไปได้สำเร็จ

“ฮ๊า ” ร่างบางนั่งอยูบนตักของคนด้านหลังได้สำเร็จ แขนแกร่งโอบรอบเอวบอบบางของคนตรงหน้า ริมฝีปากกดจูบหนักๆลงไปบนลาด
ไหล่บางของคนอีกคนด้วยความคิดถึง

ร่างบางค่อยๆ ส่ายร่อนสะโพกของตัวเองให้ช่องทางรักของตัวเองเล่นสนุกกับเจ้าลูกชายของอีกคนได้อย่างเต็มที่


“อ๊า อึก ยุน ยุนโฮ ”

“อา แจจุง อึก นาย สุดยอด ” ร่างบางยังคงเริงระบำอยู่บนตักของคนด้านหลัง เป็นจังหวะที่รวดเร็วและร้อนแรง แผ่นหลังบางเอนอิงไป
ยังแผ่นอกแกร่งของคนด้านหลัง ก่อนจะส่ายร่อนสะโพกมนของตัวเองเป็นจังหวะที่ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น มือหนาเอื้อมไปมอบความสุขให้กับเจ้าลูกชายตัวน้อยของคนด้านหน้าที่กำลังชูชันอยู่ภายในอุ้งมือของเค้า


“อ๊า ยุนโฮ ฮึก ”


สะโพกมนยังคงส่ายร่อนไปมา เพื่อให้เจ้าลูกชายตัวโตของคนด้านหลังปีนป่ายเข้าไปมอบความสุขให้กับตัวเองลึกขึ้นกว่าเดิม มือบางยกขึ้นจิกผมของคนข้างหลังที่กำลังซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของตัวเองอยู่ มือหนาจับใบหน้าหวานแดงก่ำของร่างด้านบนตัวเองให้หันมารับจุมพิตแสนหวานจากตัวเอง ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาแลกน้ำรสหวานกันอย่างเพลิดเพลิน


“อืม ” เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอ แต่สะโพกมันก็ยังรู้หน้าที่ตัวเองเป็นอย่างดี ยังคงส่ายร่อนไปมา เริงระบำมอบความสุขให้กับอีกคนอย่างไม่หยุดหย่อน


เสียงหายใจของคนทั้งสองสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เหมือนๆกับร่างกายของคนทั้งสองที่กำลังให้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยเช่นกัน เสียงครางทุ้มต่ำที่สอดประสานกับเสียงครางหวานของคนอีกคนได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งสองต่างมีอารมณ์วาบหวามกับบทรักที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นทุกทีไม่ต่างกัน


บทรักร้อนแรงยังคงดำเนินต่อไปในการขยับเขยื้อนอยู่ในท่าเดิมๆ จนคนที่อยู่ด้านบนเริ่มจะล้าอ่อนแรง ร่างสูงจัดการให้คนตรงหน้า นอนคว่ำลงราบกับพื้นเตียงทั้งๆที่ช่องทางรักยังคงเชื่อมต่อกัน

ใบหน้าหวานแดงก่ำซุกลงกับหมอนใบเขื่องที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง สะโพกมันยกขึ้นอยู่ในท่าทางสุด

เซ็กซี่ จนคนด้านหลังอดใจไม่ไหว เร่งจังหวะรักให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม สะโพกหนากระทั้นความเป็นชายของตัวเองเข้าไปจนสุดทาง

รักซ้ำแล้วซ้ำเล่นจนเกิดเสียงชื้นแฉะเล็ดลอดออกมา

ใบหน้าคมเริ่ดขึ้น ลิ้นร้อนไล่เลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความหื่นกระหายตามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน


ร่างสูงโน้มตัวลงเข้าไปใกล้คนตรงหน้า ทั้งๆที่สะโพกหนายังคงทำหน้าที่มอบความสุขให้กับอีกคนอย่างต่อเนื่องไม่ขาด ลิ้นร้อนไล่เลีย

ไปตามแผ่นหลังเนียนตามความยาวกระดูกสันหลังเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านให้กับบทรักร้อนแรงครั้งนี้


“ฮึก อ๊า โอ้ว ยุน...แฮ่กๆ อ๊า ” เสียงครางหวานยังคงดังลั่นห้องกว้าง กลบเสียงทำงานของเครื่องปรับอากาศจนหมด


มือหนาบีบขย้ำเนินอกพอดีมืออย่างเมามันส์ ก่อนจะเลื่อนมาบีบขย้ำแก้มก้นขาวเนียนอย่างมันมือ



ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก



เข็มนาฬิกายังคงดำเนินต่อไป พร้อมๆกับการบรรเลงเพลงรักที่ยังคงเคลื่อนไหวกันอยู่ในท่าเดิม แต่ก็ยังไม่มีใครที่ได้แตะฝั่งฝันอย่างที่ได้หมายเอาไว้ ร่างสูงจัดการเปลี่ยนท่าทางให้อีกคนอยู่ในท่านอนหงายทั้งๆที่ช่องทางรักยังคงเชื่อมติดกัน ส่งผลให้คนตรงหน้าเผลอ
ร้องออกมาเสียงดังเพราะความเจ็บปวด


“อ๊า ยุนโฮ เจ็บ ”

มือหนาจับขาเรียวกลมกลึงของอีกคนให้กางออกมากยิ่งขึ้น ก่อนจะกระทั้นความเป็นชายของตัวเองเข้าไปและเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก


“อา แจจุง รัด รัดฉันอีก รัด ” เสียงทุ้มครางออกมาอย่างสุขสม เพราะช่องทางรักของคนตรงหน้ากำลังตอดรัดเจ้าลูกชายตัวโตของเค้าอยู่ จนทำให้เค้าแทบจะสำลักความสุขออกมา


“อ๊า ยุนโฮ อึก ยุนโฮ ”ใบหน้าคมเลื่อนไปส่งปลายจมูกนุ่มนิ่มของตัวเองคลอเคลียเข้ากับซอกคอขาว ก่อนจะส่งปลายลิ้นร้อนไล่เลียไปตามผิวเนียนละเอียด ร่างบางเบือนหน้าหนีเปิดทางให้อีกคนได้เข้ามาสูดกลิ่นหอมที่จะกระตุ้นอารมณ์ให้คนอีกคนได้เพิ่มขึ้นไปอีก


“อา แจจุง ฉัน...รัก นาย รักนาย อ๊า ”


ร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระทั้นที่อีกคนส่งมาให้ เหมือนๆกับเตียงใหญ่ที่เริ่มจะส่งเสียงเตือนบอกเจ้าของห้องทั้งสองคน
แขนเรียวบางโอบรอบลำคอของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น อยากให้คนอีกคนเข้ามาใกล้ตัวเองมากกว่านี้ อยากจะกอดเอาไว้ไม่ปล่อยไปไหน อยากให้ร่างกายและใจของเราทั้งสอง หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง

“ยุนโฮ ยุนโอ ไม่...ไม่ไหว จะไปแล้ว ” เสียงครางแห่งไฟราคะที่กำลังลุกโชน ดังมากยิ่งขึ้นเมื่อร่างบางกำลังจะถึงใฝ่ฝันเต็มที
สะโพกหนากระทั้นความเป็นชายของตัวเองแรงและเร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ตัวเองและอีกคนถึงฝั่งฝันโดยเร็ว ไม่นาน ร่างบางกระตุกอย่างแรง ก่อนจะส่งเสียงครางวาบหวามสุดท้าย และปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องแกร่งของอีกคน


“อ๊า ” ร่างบางหายใจหอบถี่ เพราะเหนื่อยที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่คั่งค้างของตัวเองออกไปเสียที ส่วนอีกคนที่ยังคงไม่ถึงฝั่งฝันก็รีบกระแทกกระทั้นเจ้าลูกชายตัวโตที่อยากจะปลดปล่อยเต็มที่เข้าสู่ช่องทางรักอย่างเร็ว ไม่นาน ของเหลวสีขาวขุ่น ก็พุ่งเข้าสู่ช่องทางรักสีหวานจนมันไหลเอ่อออกมาเปื้อนต้นขาขาวของร่างด้านใต้ ร่างสูงขยับกายเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองปลดปล่อยออกมาให้หมด ก่อนจะล้มตัวลงนอนทับคนอีกคนอย่างหมดแรง


เสียงหายใจหอบถี่ของเจ้าของห้องทั้งสองคน ดังสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียวแข่งกับเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ใบหน้าคมซุกอยู่กับซอกคอขาวของคนตรงหน้า พร้อมกับปล่อยลมหายใจร้อนออกมา
แขนแกร่งโอบเอวบางของอีกคนเอาไว้แน่น ราวกับว่ากลัวคนตรงหน้าจะหนีหายจากตัวเองไปอีกครา


“ฉันคิดถึงนาย แจจุง ฉันรักนาย ” ใบหน้าคมโง้ขึ้นมาจากซอกคอขาว ก่อนจะจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของร่างที่อยู่ด้านใต้

“ฉันก็คิดถึงนาย ยุนโฮ ฮึก ฉันขอโทษ ” ร่างบางเริ่มปล่อยสะอื้นออกมา เมื่อรู้สึกผิดกับการที่ตัวเองได้ทอดทิ้งอีกคนเอาไว้ ให้จมอยู่กับความเจ็บปวดที่ตัวเองได้เป็นคนก่อขึ้นมาเอง แขนบางโอบกอดคนอีกคนเอาไว้แน่นเช่นกัน
ร่างสูงฝืนอ้อมกอดของอีกคนขึ้นมา จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มจะเปื้อนน้ำตาอีกครา นิ้วเรียวยาว
เช็ดหยาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มขาวอยู่ให้ออกจากใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา


“ไม่เป็นไร แค่นายกลับมา ฉันก็ดีใจมากแล้ว ขอบคุณนะ แจจุง ขอบคุณ ” ริมฝีปากหนาประทับลงบนเรียวปากบางของคนตรงหน้าอีกครา ก่อนที่บทรักแห่งความคิดถึงจะเริ่มต้นขึ้นอีกครา เพราะการจากลานั้น ทำให้ทั้งสองคนคิดถึงกันมากเหลือเกิน จนทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงครางหวานหูจากบทรักที่ห่างหายไปจนตลอดถึงเช้าวันใหม่




สายวันเสาร์ที่อากาศแสนจะสดใส เนื่องจากเป็นวันหยุด ผู้คนมากมายจึงพากันพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเจ้าของห้องพักสุดหรู

ทั้งสองคนที่ยังคงนอนล่องลอยอยู่กับโลกแห่งความฝันจนลืมเวลา อันเนื่องมาจากกิจกรรมแห่งการหวนระลึกถึงซึ่งกันและกันที่เกิดขึ้น

เมื่อคืน กินเวลานานไปหน่อยจนถึงเช้า จนทำให้ไม่มีใครมีแรงพอที่จะงัดตัวเองให้ลุกขึ้นจากที่นอนนุ่มแสนสบายนี้ได้


แต่แล้วชายร่างสูงกว่าก็เริ่มจะขยับตัว นัยน์ตาคมค่อยๆเปิดออกช้าๆ เพื่อรับภาพแรกของเช้าวันใหม่ มือหนายกขึ้นมากุมหัวตัวเอง เนื่อง

จากอาการปวดหัวที่แล่นริ้วขึ้นมา เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่เข้าสู่กระแสเลือดเยอะไปหน่อยเมื่อคืน



ปวดหัวจังเว้ย ทำไมเมื่อยตัวอย่างนี้วะ ทำอะไรมาเมื่อคืนเนี้ย


ร่างสูงคิดไปเองคนเดียว หลังจากที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเมามากเมื่อคืน แต่ทำไมตื่นมาถึงเมื่อยตัวอย่างนี้ แต่ว่าไปเมื่อคืนเค้าก็ฝันดี ฝันว่า
แจจุงมาอยู่กับเค้า


แต่ด้วยแรงกดทับบริเวณลาดไหล่ของตัวเอง ส่งผลให้นัยน์ตาคมตวัดลงมามองที่มาของแรงกดทับนั่น เมื่อได้เห็นถึงที่มานั่น ร่างสูง

เหมือนจะเด้งตัวขึ้นมาอย่างเร็วด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้ เพราะต้นเหตุของอาการปวดเมื่อยตัวทั้งหมด กำลังนอน

หลับปุ๋ย ไม่รู้เรื่องรู้ราวรอบตัวทั้งสิ้น กำลังนอนอยู่บนไหล่แกร่งของตัวเอง แขนเรียวบางโอบกอดเอวหนาของเค้าเอาไว้ ราวกับนึกว่ามัน

เป็นหมอนข้างไร้ชีวิต


“แจจุง ” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยออกมาเบาๆ ราวกับคนเป็นไข้ที่กำลังเพ้อ คนที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดเค้านี้ คือ คนที่เค้าตามหาอยู่จริงๆใช่มั้ย นี่ไม่ใช่ภาพลวงตาใช่มั้ย มือหนายกขึ้นขยี้ตาตัวเองสองสามที เพื่อให้แน่ใจว่า ภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ภาพลวงตาที่เค้าเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ก่อนจะเลื่อนมือไปลูบไล้ใบหน้าเนียนของคนตรงหน้าที่ยังคงนอนหลับอยู่ อย่างแผ่วเบา
นี่ไม่ใช่ความฝัน นี่เป็นความจริง แสดงว่า ที่เค้าฝันว่า เค้าได้กอดแจจุงมาตลอดทั้งคืน ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ


แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้คนอีกคนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดได้มากยิ่งขึ้น ก่อนจะออกแรงโอบรัดเอาไว้ ราวกับว่ากลัวว่าคนตรงหน้า จะ
หายวับไปถ้าไม่จับเอาไว้


ใบหน้าคมซุกเข้ากับซอกคอขาวหอมกรุ่น กลิ่นหอมประจำตัวของแจจุง ที่ร่ำร้องเรียกหามันนตลอดเวลาที่คนคนนี้หายจากไป


แรงโอบรัดที่มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าหญิงนิทราที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวขึ้นมาในทันที ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นเพื่อดูที่

มาสาเหตุที่ทำให้ตัวเองตื่นขึ้น ก็พบเข้ากับเจ้าของแขนแกร่งที่กำลังกอดเค้าเอาไว้แน่น กำลังนอนมองหน้าเค้าตาแป๋วอยู่


“อื้ม ยุนโฮ หายใจไม่ออก ”ร่างบางพยายามฝืนตัวเองออกจากอ้อมกอดที่เริ่มจะแน่นขึ้นทุกทีของคนตรงหน้า แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อคน

อีกคน รั้งให้เค้าเข้ามาในอ้อมกอดมากยิ่งขึ้น


“ให้ฉันได้กอดนายเอาไว้อย่างนี้เถอะนะ คิดถึงนายจริงๆ ” รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานในทันที แขนเรียวบางโอบกอดเอวหนา

ของอีกคนเช่นกัน



“ฉันขอโทษนะแจจุง ขอโทษจริงๆ ที่ทำให้นายเจ็บปวด ขอโทษ อย่าหนีฉันไปอีกนะ แจจุง ” ร่างบางผละออกจากอ้อมกอดของร่างสูง

เพื่อมามองใบหน้าคมให้ได้ถนัดตา มือเรียวยกขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน


ใบหน้าหวานฉายแววไม่พอใจเล็กน้อย ยิ่งทำให้คนอีกคน นึกคิดไปอีกว่า เค้าบังคับขืนใจคนตรงหน้าไปเมื่อคืน


“นายทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง ” เสียงหวานพูดออกมาเรียบๆ แต่ทำให้อีกคนเย็นวาบไปได้ทั้งตัว


“ฉัน ขอโทษ แจจุง ฉัน ไม่ได้ตั้งใจ ” ใบหน้าคมฉายแววรู้สึกผิดออกมาอย่างชัดเจน เพราะเค้ารู้ตัวเอง ว่าเมื่อคืนเค้าเมามาก แต่ถึงเค้า

จะเมามากแค่ไหน เค้าก็ยังรับรู้ได้ถึงความสุข ความหวานที่แผ่ซ่านไปทั่ว จากแจจุงได้อย่างชัดเจน


แต่แล้ว ใบหน้าหวานที่เคยง้ำงอ ก็กลับเปลี่ยนแปลงไป ริมฝีปากบางระบายยิ้มออกมา ก่อนจะเปล่งงเสียงหัวเราะใสออกมา จนทำให้คน

ตรงหน้าทำหน้าไม่ถูก



“ฮะๆ ฮ่าๆ ”


“แจจุง ทำไม ”


“โอ๋ หน้าเหวอเชียว ” มือเรียวยกขึ้นมาลูบใบหน้าเรียวเล็กของคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังทำหน้า


เหวอกับสิ่งที่อีกคนกำลังทำ


”นี่นาย แกล้งฉันเหรอ”


“อิอิ ขอโทษน้า ” ร่างบางซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของคนตรงหน้าราวกับลูกแมวขี้เล่นที่กำลังพยายามจะออดอ้อนผู้เป็นเจ้าของ


รอยยิ้มแห่งความดีใจระบายบนใบหน้าหล่อของร่างสูงในทันที ที่รู้ว่าคนตรงหน้าแกล้งตัวเองเล่นเท่านั้น แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะประทับจุมพิตลงไปบนแก้มนุ่มแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว


“นี่แน่ะ แกล้งฉันดีนัก เดี๋ยวก็โดนลงโทษหรอก ”
เสียงหัวเราะใสถูกเปล่งออกมาจากคนในอ้อมกอดอีกครั้ง ก่อนจะฝืนตัวเองออกมาจากอ้อมกอดอบอุ่น ดวงตากลมโตจับจ้องที่ใบหน้าเรียวเล็กของคนตรงหน้า

ดวงตาของทั้งสองต่างจับจ้องกันและกันและถ่ายทอดความรู้สึกส่งถึงกันและกันให้อยู่เนิ่นนาน

“ฉันขอโทษนะ แจจุง ” มือหนาลูบไล้ไปมาบนกลุ่มผมนิ่มของร่างบางในอ้อมกอด

“ฉันก็ต้องขอโทษนาย ที่ทำให้นายเจ็บมากเหมือนกัน ฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้ว ถึงแม้ฉันจะต้องเจ็บปวดก็ตามที่เห็นนายไปกับใคร แต่ฉันก็จะยอมเจ็บ ถ้าได้อยู่ใกล้ๆ นาย ” ใบหน้าคมโน้มเข้าไปใกล้อีกคน ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน

“ขอเวลาฉันหน่อยนะแจจุง ฉันจะรีบจัดการเรื่องราวทุกอย่างให้เรียบร้อย นายจะได้ไม่เจ็บปวดอีก ไม่ว่าฉันจะไปกับใคร นายรู้ใช่มั้ย ว่าฉันรักแค่นาย ” ร่างบางพยักหน้าตอบรับ


มือเรียวบางยกขึ้นโอบอุ้มใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายเอาไว้

“ดูซิ ซูบลงไปเยอะเลย กินแต่เบียร์ล่ะสิใช่มั้ยเนี่ย โรคกระเพาะกำเริบด้วยใช่มั้ย ” ร่างสูงพยักหน้าตอบรับ พร้อมทำหน้าน่าสงสาร

“เพราะฉะนั้น นายต้องกลับมาทำอาหารให้ฉันกินทุกวันนะ ” รอยยิ้มหวานส่งให้คนตรงหน้า

“อื้ม ไม่กินล่ะน่าดู ”

“จ้า ไม่กินได้ไง เมียทำกับข้าวเก่งขนาดนี้ ”

“บ้าน่า เมียอะไรของนาย ” มือเรียวบางตีลงไปบนอกแกร่งกับพูดทะลึ่งๆที่มาจากอีกคน

“อ้าว หรืออยากจะให้ฟื้นความจำเรื่องเมื่อคืนให้อีกรอบ ” ใบหน้าคมเลื่อนไปซุกไซร้ซอกคอขาวของคนตรงหน้าอีกครา เรียกเสียง
หัวเราะใสของอีกคนได้เป็นอย่างดี


“ฮะๆ ไม่เอายุนโฮ จั๊กจี้น่า ฮะๆ ” เสียงหัวเราะแห่งความสุขที่ห่างหายจากห้องนี้มานาน ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับความสุขของเจ้าของห้องทั้งสองคน ที่กลับมาอีกครั้ง การกลับมาที่กลับมาเติมเต็มให้อีกฝ่ายได้พ้นจากความเจ็บปวดที่อยู่กับตัวเองมานาน ให้หลุดออกไปเสียที